รุก-รับ ความแตกต่างในความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี

การติดเชื้อเอชไอวี เกิดจากการที่เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านของเหลว เช่น เลือด น้ำอสุจิ และสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศหรือทวารหนัก ความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวี จะแตกต่างกันไปตามบทบาททางเพศในระหว่างมีเพศสัมพันธ์

รุก-รับ ใครเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีมากกว่ากัน? ความจริงที่คุณควรรู้


ฝ่ายรับ (Receptive Partner)

  • ฝ่ายรับในเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักมี ความเสี่ยงสูงที่สุด เนื่องจากเยื่อบุภายในทวารหนักบาง และมีโอกาสเกิดแผลเล็กๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แผลเหล่านี้ช่วยให้เชื้อเอชไอวี เข้าสู่กระแสเลือดได้ง่าย
  • อัตราความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวี สำหรับฝ่ายรับอยู่ที่ประมาณ 1.38% ต่อการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน 1 ครั้ง

ฝ่ายรุก (Insertive Partner)

  • ฝ่ายรุกมีความเสี่ยงเช่นกัน แต่ความเสี่ยงจะต่ำกว่าฝ่ายรับ เนื่องจากผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศมีความหนากว่าเยื่อบุทวารหนัก
  • อย่างไรก็ตาม การมีแผลหรือรอยถลอกบริเวณปลายอวัยวะเพศ รวมถึงการสัมผัสกับเลือดหรือสารคัดหลั่งที่มีเชื้อเอชไอวี อาจเพิ่มความเสี่ยง
  • อัตราความเสี่ยงสำหรับฝ่ายรุกอยู่ที่ประมาณ 0.11% ต่อการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน 1 ครั้ง

ปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมในการติดเชื้อเอชไอวี

นอกจากบทบาททางเพศแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี เช่น

  • ปริมาณไวรัสในเลือด (Viral Load) หากผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี มีปริมาณไวรัสในเลือดสูง ความเสี่ยงจะยิ่งเพิ่มขึ้น
  • การใช้หรือไม่ใช้ถุงยางอนามัย ถุงยางอนามัยช่วยลดความเสี่ยงได้ถึง 85%
  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน ซิฟิลิส หรือเริม อาจเพิ่มโอกาสการติดเชื้อเอชไอวี
  • การใช้สารเสพติด การใช้สารเสพติด เช่น การเสพยาเพื่อเพิ่มความสุขทางเพศ (Chemsex) อาจเพิ่มพฤติกรรมเสี่ยง
การป้องกัน และลดความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี


การป้องกัน และลดความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี

  • ใช้ถุงยางอนามัย การใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง และทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) ยาป้องกันก่อนสัมผัสเชื้อเอชไอวี ช่วยลดความเสี่ยงได้ถึง 99% หากมีการรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง
  • PEP (Post-Exposure Prophylaxis) ยาป้องกันหลังสัมผัสเชื้อเอชไอวี ที่ต้องเริ่มภายใน 72 ชั่วโมงหลังการสัมผัสเอชไอวี
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ การตรวจหาเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำช่วยให้รู้สถานะสุขภาพของตนเอง และคู่นอน
  • การสื่อสารกับคู่นอน การพูดคุยเรื่องสถานะสุขภาพ และการป้องกันร่วมกันช่วยลดโอกาสเกิดความเสี่ยง

U=U ความหวังใหม่ในยุคปัจจุบัน

แนวคิด U=U (Undetectable = Untransmittable) ระบุว่าผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ARV) จนมีปริมาณไวรัสในเลือดต่ำจนตรวจไม่พบ (Undetectable) จะไม่สามารถแพร่เชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าที่ช่วยลดการตีตรา และสร้างความเข้าใจในสังคม

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม

HIV ติดแล้ว ไม่เท่ากับตาย

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ควรรู้จัก

แม้ว่าฝ่ายรับจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี สูงกว่าฝ่ายรุก แต่ความเสี่ยงสามารถลดลงได้ด้วยการป้องกันที่ถูกต้อง เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การรับประทาน PrEP และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ การเรียนรู้ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับเอชไอวี อย่างถูกต้องจะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคน และลดการแพร่เชื้อในระยะยาว

จำไว้ว่า ความรู้ คือ พลัง และการป้องกันคือทางออกที่ดีที่สุด!